SHARE
New Coolest Bangkok Bars to die for

8 บาร์ใหม่ ไม่ธรรมดา เปิดเต็มเมื่อไหร่ วงการค็อกเทลสะเทือนกันแน่นอน

SHARE


ต้องยอมรับว่าช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา Cocktail Culture ในเมืองไทย เริ่มเป็นที่แพร่หลาย และได้รับความนิยมในวงกว้าง บาร์ค็อกเทลเริ่มเปิดกันมากขึ้น และเริ่มไม่จำกัดพื้นที่ของบาร์เฉพาะในโรงแรมเหมือนเช่นที่ผ่านมาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นบาร์ที่เปิดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ล้วนมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นและมีอัตลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน จนหลายๆ บาร์ได้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งของการจัดอันดับจาก WORLD'S 50 BEST BARS และ ASIA'S 50 BEST BARS รวมถึงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ได้มีการจัดและประกาศรางวัล The Bar Awards Bangkok 2017 ขึ้นเป็นครั้งแรกในบ้านเราด้วย


ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเพราะธุรกิจของบาร์ค็อกเทลกำลังเติบโตและไปได้ดี หรือเพราะเราเริ่มเข้าใจ Cocktail Culture กันมากขึ้น ผู้คนเริ่มรู้ว่าเมื่อไปบาร์ควรจะสั่งอะไร และควรสั่งอย่างไร จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ภายในเดือน ก.ค.- ส.ค. นี้ จะมีบาร์เปิดใหม่ในกรุงเทพฯ มากเกือบ 10 บาร์ และแต่ละบาร์ก็ไม่ธรรมดาทั้งสิ้น เพราะเรากล้าฟันธงว่าทุกบาร์ที่เราไปเก็บเกี่ยวข้อมูลมานั้น คอนเส็ปของแต่ละบาร์ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ.... น่าสนใจแค่ไหนไม่รู้ แต่ทุกบาร์ที่สัมภาษณ์จบ ก็อยากให้เปิดกันเร็วๆ คือเปิดกันสักที เพราะถือเป็นบาร์ชั้นดี ที่ไม่ควรพลาดเลยสักบาร์



บาร์ที่ยังไม่มีชื่อ และไม่อยากมีชื่อ เพราะอยากให้เป็นที่เร้นลับ ให้สนุกกับการค้นหาเพื่อค้นพบความอลังการจากความไม่คาดหวัง หรือต่อให้หวังอะไรไว้ เมื่อมาถึงอาจเป็นมากกว่าที่หวังไว้อย่างแน่นอน

บาร์นี้อยู่ในย่าน Arena 10 ซอยทองหล่อ 10 อยู่ในเวิ้งร้านขายราเมง ที่ทางเข้าหาไม่ยาก แต่อาจหาไม่เจอ กระซิบบอกว่าหาผนังที่เป็นตู้ล็อกเกอร์ให้เจอ ห้องที่มีผนังล็อกเกอร์ทั้ง 3 ด้าน แล้วลองเลื่อนดู ผนังฝั่งไหนเลื่อนได้ อันนั้นล่ะคือประตูสู่บาร์แห่งนี้



เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะได้สัมผัสความงดงามของบาร์ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นการตกแต่งแบบ Garage Loft Style ที่ดูเท่แต่อบอุ่น และไม่ต้องกังวลว่าจะดื่มอะไรดี หรือสั่งยังไง เพราะทีมบาร์เทนเดอร์ที่นี่ จะพร้อมให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง เพื่อแก้ปัญหากับหลายๆ คนที่อาจไม่ใช่นักดื่มตัวยง แต่มีความปรารถนาอยากลองดื่มค็อกเทล อยากมาเอ็นจอยกับเครื่องดื่ม เพราะด้วยคอนเส็บของที่นี่ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เป็นนักดื่มหน้าใหม่ หรือเป็นคอค็อกเทลตัวยง คือที่นี่อยากมาเมื่อไรก็มาได้เลย อย่าคิดเยอะ อย่าคิดซับซ้อน เพราะความตั้งใจของที่นี่คืออยากให้ทุกคนไม่ว่าจะมาในอารมณ์ไหน แต่จะกลับไปด้วยรอยยิ้มอย่างแน่นอน


 

หากถามว่ามาที่นี่แล้วควรจะสั่งอะไร หรือดื่มอะไรดี ขอบอกว่าบาร์แห่งนี้พร้อมเสิร์ฟทั้งแบบ Classic cocktail และ Old Fashioned Cocktail รวมถึง Signature Cocktail และหรืออยากดื่มแนวไหน ชอบอะไรเป็นพิเศษก็สามารถบอกกับทีมค็อกเทลได้ทุกคน เพราะที่นี่ทีมบาร์ทุกคนจะถูกฝึกฝนให้เชี่ยวชาญและรู้รอบเรื่องค็อกเทลอย่างเท่าเทียมกัน จนทำงานแทนกันได้ในทุกหน้าที่ โดยค็อกเทลของที่นี่จะแบ่งหมวดเป็น Past, Present และ Future เช่น ค็อกเทลที่เป็น Classic Cocktail ก็จะอยู่ในหมวด Past หรือถ้าเป็น Present ก็จะเป็น Twist Classic และ Future ก็จะเป็น Modern Twist  

เบื้องหน้าเบื้องหลังของบาร์แห่งนี้ คือความตั้งใจที่อยากยกมาตรฐานของ Bar Culture ในเมืองไทย ให้มีมาตรฐานมากขึ้น คือทุกๆ ปี ประเทศไทยเราควรมีบาร์ติดอยู่ใน The World's 50 Best Bars มากกว่านี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง Hidden Passion ของทีมงานที่นี่ อ้อ..เราลืมบอกไปว่าทีมก่อตั้งบาร์แห่งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นทีมงานจาก Backstage Cocktail Bar ที่ปีที่ผ่านมานอกจากได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มนักดื่มชาวไทยแล้ว ยังติดอันดับของทั้ง WORLD'S 50 BEST BARS และ ASIA'S 50 BEST BARS ในปีล่าสุดอีกด้วย

ที่ตั้ง: ARENA 10 ทองหล่อ 10
กำหนดเปิดอย่างเป็นทางการ: กลางเดือน ก.ค. 
เวลาเปิดบริการ : 19.00-01.00 น.


 * ตอนนี้เป็นช่วง soft opening เมนูค็อกเทลที่เสิร์ฟจะเป็นเมนูพิเศษสำหรับช่วง Soft Opening นี้เท่านั้น ส่วนเมนูที่เป็น Past, Present และ Future จะเริ่มให้บริการเมื่อเปิดเต็มรูปแบบ หากใครสนใจสามารถไปลองเปิดรับประสบการณ์ใหม่ได้แล้ววันนี้ แนะนำว่าไปเร็วหน่อยก็ดี เพราะแม้ว่ายังไม่เปิดจริงอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้ข่าวมาว่าคนที่เริ่มรู้ก็เริ่มมากันแต่หัววันกันเลยทีเดียว




บาร์แห่งนี้ เป็นบาร์ลับซ่อนตัวอยู่หลังกำแพง ไม่มีป้ายบอกชื่อบาร์ ไม่มีป้ายบอกทางเข้าชัดเจน ทำเลที่ตั้งอยู่ในส่วนของ The Penthouse Bar and Grill ของโรงแรม Park Hyatt Bangkok ที่ไม่มีใครรู้ นอกจากน้องๆ พนักงานในส่วนบริการของ The Penthouse Bar and Grill เท่านั้น

ด้วยคอนเส็ป American Style Bar ย้อนยุคไปราวปี 1920 แนวทางการตกแต่งที่นี่จึงทุ่มทุนแบบไม่มียั้ง เหมือนลูกเศรษฐีผลาญมรดก ทุกตารางมิลของบาร์พูดได้ว่าใส่เต็มลงรายละเอียดไม่มียั้ง เพื่อตอบโจทย์ความเป็น Hidden Bar ที่เข้ามาแล้วต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน 




คุณ Simon Brandmayer ซึ่งเป็น Head Bartender ของที่นี่ได้เล่าให้เราฟังว่า

“บาร์ของเราเป็นบาร์ที่เข้ามาแล้ว เหมือนได้ย้อนยุคไปในช่วงปี 1920 แม้ว่าบาร์ของเราจะดูลึกลับ หายาก รับแขกได้ไม่มาก ไม่รับจองล่วงหน้า แต่เมื่อมาแล้ว เราจะดูแลคุณเป็นอย่างดี ราวกับคุณเป็น Star of the Night และแน่นอนว่า Signature Cocktail ของที่นี่ พร้อมยั่วให้คุณได้ดื่มด่ำ ราวกับได้ประทับริมฝีปากกับหนุ่มสาวเจนโลก ที่พร้อมตายด้วยรอยจุมพิตจากคุณในค่ำคืนนั้น”

ซึ่งเครื่องดื่มของที่นี่ จะเน้นการดื่มด่ำกับ Whisky รสชาติดีที่คัดสรรมาจากหลากหลายประเทศ เพื่อความเป็น Whisky Bar แบบเต็มรูปแบบ แต่หากใครอยากพาสาวมาด้วย หรือมีเพื่อนที่อยากจิบค็อกเทล ที่นี่ก็มีค็อกเทลที่เป็น Whisky  Base และ Classic Cocktail รวมถึง Signature Cocktail ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากค็อกเทลแก้วโปรดของนักเขียน หรือกวี ระดับโลก เช่น Dorothy Parker กับค็อกเทลที่ชื่อว่า The Rams

Whisky Room
ที่ตั้ง:
The Penthouse Bar and Grill
กำหนดเปิด: ต้นเดือน ก.ค.
เวลาเปิดบริการ : 16.30-24.00 น.




ASIA TODAY คืออีกหนึ่งบาร์ ที่หาคำนิยามมาจำกัดความได้ยากยิ่ง และยิ่งได้รู้มาว่า คุณณิกษ์ อนุมานราชธน ซึ่งเป็น Mixologist ที่หลายคนในวงการค็อกเทลต่างให้การยอมรับในความเป็นมืออาชีพ ที่บ้าระห่ำ คลั่งไคล้การดื่มด่ำค็อกเทลระดับเกินคำว่าสายเทพ มาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งและดูแลบาร์ใหม่แห่งนี้ ที่ชื่อว่า ASIA TODAY ต้องไม่มีคำว่าธรรมดาแน่นอน

พอเอ่ยชื่อ ณิกษ์ อนุมานราชธน หลายคนอาจนึกถึง Teen of Thailand ซึ่งเป็น Gin Bar ที่เพิ่งได้รับรางวัล Best Cocktail Bar จาก The Bar Awards Bangkok 2017 แล้วอาจพาลคิดไปว่า “อ้าว! แล้ว Teen of Thailand ล่ะ ยังเปิดอยู่ไหม” ก็ขอบอกว่า Teen of Thailand ยังคงเปิดเหมือนเดิม และคุณณิกษ์ ก็มาทำ ASIA TODAY เพิ่มอีกบาร์ โดยที่นี่จะเป็น Rum Bar ที่รับรองว่าไม่อยู่ในความคาดหมายของทุกคนแน่นอน


ภาพ Visual Concept บางส่วนจาก Instagram ของบาร์ ASIA TODAY


และเมื่อเราถามถึงคอนเส็ปของบาร์ คุณณิกษ์ ก็ยิ้มพิฆาตที่มุมปาก แล้วตอบว่า


“ บาร์ของเราไม่ได้คิดว่าต้องมีคอนเส็ปอะไร คือเราคิดว่าจริงๆ บาร์อาจไม่ต้องประดิษฐ์จริตมากนัก คือตัวตนที่ไม่มีอะไรเลยนั่นแหละ ที่อาจเป็นตัวตนของเรา คือแค่ลูกค้ามาแล้วได้สนุกได้เอนจอยกัน มันก็ตอบโจทย์ในความไม่คาดหวังแล้วหรือเปล่า การมาบาร์เรา อาจเหมือนการได้เจอร้าน Prada กลางทะเลทราย...อะไรอย่างนั้น “

ASIA TODAY จะเป็นอีกหนึ่งมิติของบาร์ที่นำเสนอความเป็นเอเชีย ความเป็นรสชาติของตะวันออก กับรสชาติจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่หลายคนคุ้นลิ้น และรับรองว่ามาที่นี่จะได้สัมผัสรสชาติในมิติใหม่ที่คาดไม่ถึงแน่นอน คือบางทีของใกล้ตัวหลายอย่างที่เราคุ้นเคยกันแล้วคิดว่ามันไม่ธรรมดา ก็เลยไม่สนใจมัน แต่จริงๆ แล้วมันอาจมีดีจนทำให้เราหลงเสน่ห์ได้ และที่ ASIA TODAY ก็พร้อมให้ประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างในความเป็นเอเชียเช่นนั้น

ASIA TODAY  
ที่ตั้ง: ซอยนานา ทางเดินเชื่อมระหว่าง Teen of Thailand กับ Tep Bar ตรงข้ามกับตรงโรงน้ำแข็ง และติดกับร้านดอกไม้ Oneday Wallflowers
กำหนดเปิด: กลางเดือน ก.ค.
เวลาเปิดบริการ : 19.00-24.00 น.




 

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า ที่ ช่างชุ่ย ซึ่งเป็น Creative Space นั้น มีเครื่องบินลำใหญ่จอดนิ่งอยู่กลางพื้นที่เป็นแลนด์มาร์กตระหง่านตา ที่ใครไปใครมาก็ต้องหยุดถ่ายรูปเอาไปแชร์ไปอวดกันบน Online Social อย่างหน้าชื่นตาบาน แต่เราขอบอกตรงนี้เลยว่า กลางเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ความรู้สึกที่มีต่อเครื่องบินลำนี้จะเปลี่ยนไป

เพราะภายในเครื่องบิน Lockheed L-1011ลำนี้ จะเป็นที่ตั้งของ NA-OH  l  Museum of Taste ที่จะฉีกความจำเจแบบเดิมๆ ของ Restaurant and Bar สู่ปรากฏการณ์ใหม่ของประสบการณ์ของรสสัมผัส กับ คอนเส็ปพิพิธภัณฑ์แห่งรสชาติความอร่อย ที่รวมไว้ทั้งร้านอาหารแบบ Casual Fine Dining และ Inspiration Cocktail Bar ภายใต้การดูแลของ คุณ Andy Yang เชฟมิชลินสตาร์จากนิวยอร์ก



 

ซึ่งเมื่อถามถึงส่วนของบาร์ ของ NA-OH  l  Museum of Taste เชฟแอนดี้ก็ได้เล่าให้ฟังว่า บาร์ของที่นี่จะไม่ธรรมดาและไม่เป็นรองคอนเส็ปของร้านอาหาร ที่ Twist ความเป็นไทยให้เปลี่ยนรูปแบบไปจนหลายคนคาดไม่ถึง ฉีกความคุ้นชิน แต่ยังคงเก็บความคุ้นเคยของรสชาติไว้ ค็อกเทลของที่นี่จึงเน้นความเป็น Liquor Flavor Base คือการรักษารสชาติตั้งต้นของเหล้าแต่ละตัวที่ถูกบรรจุมาในขวดให้มากที่สุด ไม่มีการนำไป Infused กับวัตถุดิบอื่นใดอย่างไม่มีเหตุผล เราอยากให้ทุกคนได้สัมผัสความดีงามของค็อกเทลที่มีรสชาติที่ดีเลิศ จากรสชาติตั้งต้นของเหล้าแต่ละขวด

ซึ่งเมื่อได้ฟังคอนเส็ปของบาร์ของที่นี่แล้ว ก็อดคิดไมได้ว่าแล้วใครจะมาทำหน้าที่เป็น Head Bartender ของที่นี่

“ ผมให้ความสำคัญของคนที่อยู่หลังบาร์ไม่น้อยไปกว่าตัวบาร์ของผม เพราะด้วยบรรยากาศร้าน บาร์เทนเดอร์ย่อมต้องตกเป็นเป้าสายตาอย่างปฏิเสธไม่ได้ บาร์เทนเดอร์ของผม เธออาจไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ Sexy แต่เธอมี Sex Appeal ที่พร้อมสะกดทุกสายตา ความนิ่ง ความสง่า และลีลาในการเสกค็อกเทลที่ไม่เป็นรองใคร

หากบาร์คือเวทีของละครบรอดเวย์ บาร์เทนเดอร์ของผม คือตัวเอกที่ทุกคนจะไม่ยอมคลาดสายตา “

ได้ฟังจบ เราก็อดลุ้นและคิดตามต่อไม่ได้ว่าเธอคนนั้น คือใครกันนะ ที่จะมาร่ายมนตราเสกค็อกเทลที่ NA-OH  l  Museum of Taste บนเครื่องบินลำนี้

ก็ได้แต่เร่งวันเร่งคืน ให้ถึงกลางเดือนสิงหาคมเร็วๆ เพราะอยากลองไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่จากพิพิธภัณฑ์แห่งรสชาติความอร่อยแห่งนี้จนไม่อยากรอแล้ว

NA-OH  l  Museum of Taste
ที่ตั้ง: ช่างชุ่ย Creative Space
กำหนดเปิด: กลางเดือน ส.ค.
เวลาเปิดบริการ : 17.00-24.00 น.




ครั้งแรกที่ได้ยินคอนเส็ปว่าบาร์ที่นี่ คือ การผสมผสานศิลปะการดื่มเข้ากับความเป็นอาร์ตแกลลอรี่ ก็แอบดีใจว่าในที่สุด เมืองไทยก็มีบาร์แบบนี้สักที เพราะอย่างในนิวยอร์ก อาร์ตแกลอรี่หลายแห่ง ก็มีบาร์ค็อกเทลผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกันรวมอยู่ด้วย ซึ่งพื้นฐานความคิดและที่มาของไอเดีย นั่นคือความเชื่อที่ว่าคนที่ชอบเสพงานศิลปะ ย่อมเป็นคนที่ชอบดื่มด่ำงานศิลปะบนแก้วค็อกเทลด้วยอย่างแน่นอน 



 

ที่ FUTURE FACTORY จึงเป็นบาร์ที่มีงานอาร์ตให้เสพ หรือเป็นอาร์ตแกลลอรี่ ที่มีค็อกเทลให้จิบ บาร์ที่นี่จึงเอื้อต่อการเดินเสพงานอาร์ต คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ พร้อมมีค็อกเทลดีๆ ให้ดื่ม รวมไปถึง Beer Tap ที่พร้อมเสิร์ฟเบียร์หลากรสชาติให้ทุกคนด้วยเช่นกัน

เหนืออื่นใด แม้ว่าบาร์จะอยู่ในอาร์ตแกลลอรี่ แต่รับประกันได้ว่าบรรยากาศจะไม่เงียบเหงาและน่าเบื่อ เพราะที่นี่จะที่มีดีเจมาเปิดแผ่นให้ฟัง แถมบางโอกาส อาจมี  Art Performance ล้ำๆ หมุนเวียนมาแสดงอีกต่างหาก น่าไปไหมล่ะ...


FUTURE FACTORY
ที่ตั้ง: ลานจอดรถ ชั้นใต้ดิน อาคาร Siamese Asset ใกล้ซอยพหลโยธิน 3 ระหว่าง BTS สนามเป้าและอารีย์
กำหนดเปิด: กลางเดือน ก.ค.
เวลาเปิดบริการ: 19.00-24.00 น.




Thaipioka ถือเป็นอีกหนึ่งบาร์ที่น่าจับตามากในยามนี้ โดยยังไม่ต้องไปถึงคอนเส็ปของบาร์ว่าจะดีงามหรือน่าสนใจแค่ไหน แต่แค่รู้ว่าบาร์นี้ได้ตัวคุณวรรษชล คัวดรี้ หรือที่เพื่อนๆ เรียกว่า “อิม” อดีตนักเขียนเรื่องบาร์ เรื่องค็อกเทลตัวยง จาก BK Magazine และอีกหลายๆ สำนัก Content Online ที่เชี่ยวชาญและรู้ลึกเรื่องวัฒนธรรมการดื่ม ช่ำชองวิชาสายสุราชั้นครู มาเป็น Bar Manager ที่นี่ แค่นี้ก็เป็นแรงดึงดูดเกินพอที่พร้อมยั่วเหล่านักดื่มให้อยากมาลองประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ Thaipioka แห่งนี้

Thaipioka จะเป็นบาร์ที่เน้นความเป็น Tropical โดยที่มาของชื่อบาร์มาจากคำว่า Tapioca หรือมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชเฉพาะในแถบ Southeast Asia นี้ ที่หาได้ไม่ยาก และทุกคนก็รู้ดีว่าสามารถนำมาทำอาหารหลายๆ อย่างได้อย่างอร่อยถูกใจคนมากมาย จึงเอาคำว่า Tapioca มาแปลงคำเป็น Thaipioka ซึ่งจะเป็น Tropical Cocktail Bar ที่จะใช้วัตถุดิบในแถบนี้มาสร้างสรรค์เป็นค็อกเทลที่รสชาติล้ำลึกเกินกว่าจะคาดคะเนได้

ไอเดียของเมนูเค็อกเทลที่นี่ คือ ไม่มีลิสต์เมนู แต่ในเมนูจะแบ่งเป็น 4 หมวด คือจะมีลิสต์ของ Fruits, Spices, Herbs และ Liquor โดยจะให้ลูกค้าเลือกก่อนว่าชอบผลไม้ หรือผัก หรือเครื่องเทศตัวไหน แล้วจากนั้นก็เลือกว่าอยากใช้เหล้าอะไร แล้วบาร์เทนเดอร์ก็จะเสกค็อกเทลรสดีให้จากสิ่งที่ลูกค้าเลือก นั่นแปลว่าต่อให้เลือกส่วนผสมเหมือนเดิม แต่สามารถขอให้รสชาติไม่เหมือนเดิมได้ ความสนุกมันอยู่ตรงนี้ อยู่ตรงที่เราจะได้ลุ้นว่ารสชาติของค็อกเทลแก้วนั้นจะออกมาเป็นอย่างไร

ด้วยโจทย์นี้ เราก็แอบสงสัยว่า “เฮ้ย! สมมุติว่าอยากได้มังคุด แต่ไม่ใช่หน้ามังคุด ก็แปลว่าอดดื่มค็อกเทลที่มีมังคุดใช่ไหม”

คุณวรรษชล ตอบเราเสียงหนักแน่นแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดในทันทีว่า “ไม่ใช่ค่ะ”

เพราะอย่างที่บอกว่า ที่ Thaipioka เราเป็น Tropical Cocktail Bar ที่เน้นวัตถุดิบในความเป็น Tropical เป็นหลัก คือจริงๆ หลายคนก็อาจคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะในค็อกเทลทั่วไปก็มีผัก ผลไม้ เมืองร้อน หรือของบ้านเราเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ค่อยถูกเน้นให้เป็นส่วนผสมหลัก คืออาจมีใส่ลงไปในค็อกเทลบ้างนิดหน่อยเป็นส่วนประกอบ แต่ที่ Thaipioka จะใส่แบบจริงจัง ฉะนั้นความสนุกมันอยู่ตรงนี้ อยู่ที่บาร์เทนเดอร์ต้องคิดหนัก คิดซน และไม่เลิกคิดว่าจะใช้ของที่มีอยู่อย่างไรมาทำให้ค็อกเทลอร่อยได้กับเหล้าตัวไหนก็ได้ที่ลูกค้าอาจเลือก เพราะฉะนั้นต่อให้ไม่ใช้หน้ามังคุด เราก็จะมีค็อกเทลที่มีส่วนผสมของมังคุดพร้อมเสิร์ฟอยู่เสมอ เพียงแต่รูปลักษณ์อาจเปลี่ยนไป อาจผ่านการดอง หรือแปรรูปไป แต่ยังคงความเป็นมังคุดแน่นอน ซึ่งพอเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นส้มซ่า กระชาย หรือผัก สมุนไพร อะไรก็ตาม ทุกคนจะนึกไม่ถึงว่าพอมาเป็นค็อกเทลแล้วจะออกมารสชาติชวนติดใจแล้วลืมไม่ลงจนต้องกลับมาลองซ้ำแค่ไหน

นอกเหนือจากคอนเส็ปของวัตถุดิบที่แตกต่างและท้าทายแล้ว หน้าบาร์ของที่นี่ก็ไม่เหมือนที่บาร์ไหนๆ อย่างแน่นอน เพราะบาร์ที่นี่จะยาวจนหลายคนคาดไม่ถึง มาบาร์นี้ จะหมดปัญหาที่นั่งหน้าบาร์เต็ม คือที่นั่งหลักๆ ของบาร์ ก็อยู่ที่หน้าบาร์นี่แหละ และบาร์เทนเดอร์ที่นี่มี 4 คน ทุกคนก็จะมีพื้นที่ในการดูแลลูกค้าเป็นของตัวเอง นั่นแปลว่าเมื่อเดินเข้ามาที่บาร์แห่งนี้แล้ว อยากนั่งหน้าบาร์กับบาร์เทนเดอร์คนไหนก็เลือกได้ตามใจชอบเลย

Thaipioka
ที่ตั้ง: ทองหล่อ ซอย 1
กำหนดเปิด: กลางเดือน ก.ค.
เวลาเปิดบริการ: 19.00-24.00 น.




อีกหนึ่งบาร์ที่มีกำหนดเปิดกลางเดือน ก.ค. นี้ กับ Tropic City ที่มาในคอนเส็ป Tropical แต่มีกลิ่นอายความเป็น India ,มีความเป็นภารตะ โดยมี Sebastian De La Cruz และ Philip Stefanescu ผู้คว่ำหวอดกับบาร์ในกรุงเทพฯ มาแล้วอย่าง Lady Brett และ UNCLE ที่หลายคนรู้จักดี

และกับ Tropic City ก็มีความไม่ธรรมดา เพราะที่นี่จะเป็นบาร์ที่เน้นความสนุกสนานจนเกินคำว่าสำราญและหรรษา สนุกจนลืมความตั้งใจเดิมที่ก้าวเท้าย่างเข้ามาในบาร์แห่งนี้ เพราะจากที่ตั้งใจว่าจะมาดื่มสักแก้วแล้วกลับ อาจอยู่ยาวดื่มเพลินเป็นสิบแก้วโดยไม่รู้ตัว 



ด้วยบรรยากาศและบริการที่เพียบพร้อมของบาร์ที่นี่ จะทำให้ลูกค้าทุกคนลืมวันลืมเวลา ลืมสนใจนาฬิกาที่ใส่มาอย่างสิ้นเชิง เครื่องดื่มที่นี่แน่นอนว่ารสชาติดี เพราะได้ตัวบาร์เทนเดอร์จากสนามประกวดมาประจำ แถมไฮไลต์ของที่นี่คือบาร์เทนเดอร์ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บาร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะอาจเดินไปหาถึงที่โต๊ะ ไปพุดไปคุยไปเล่าเรื่องที่มาที่ไปของค็อกเทลแก้วนั้น หรืออาจเซอร์ไพรส์ด้วยการทำเครื่องดื่มให้ที่โต๊ะเลยก็อาจเป็นได้

และหากดื่มแล้วหิว หรือโหยหาอาหารกินเล่นแกล้มเครื่องดื่ม ที่ Tropic City จะ connect กับร้านอาหารที่หลายคนรู้ดีว่ารสชาติไม่เป็นรองใครอย่าง 80/20 อีกหนึ่งร้านดังในย่านเจริญกรุง ที่หลายคนหลงรัก ซึ่งแน่นอนว่าด้วยคอนเส็ปที่ชวนให้อยู่ที่นี่ยาวๆ แบบไม่ต้องไปไหนต่อแล้ว มีอาหารดีๆ พร้อมเสิร์ฟคู่กับค็อกเทลแก้วโปรด แค่นี้ก็คงไปไหนไม่รอด


Tropic City
ที่ตั้ง: เจริญกรุง 28
กำหนดเปิด: กลางเดือน ก.ค.
เวลาเปิดบริการ: 19.00-24.00 น.





เปิดประสบการณ์ใหม่กับบาร์ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตึก อยู่ในอาคาร อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม อย่างที่เราต่างคุ้นชิยเพราะบาร์ที่นี่จะอยู่กลางแจ้ง ใต้ฟ้า ใต้ดวงดาว มีลานสนามหญ้าไว้นอนย้วย มีหน้าบาร์สวยๆ ให้นั่งสบตากับสรรพสิ่งรอบตัว นี่คือคอนเส็ปเริ่มต้นของบาร์ที่นี่ ที่ชื่อ Coastal

หากคุณเป็นหนึ่งที่เคยชื่นชอบ Black Light ที่ทองหล่อ ทีมผู้สร้างที่นี่คือทีมเดียวกัน ที่นอกจาก Coastal แล้ว ก็ยังเป็นทีมผู้สร้างและทำคลอด FUTURE FACTORY อีกด้วย ฉะนั้นรู้อย่างนี้แล้ว ก็ไม่ต้องกลัวว่าจากคอนเส็ปของ Coastal จะทำให้บาร์ดูชิลล์ๆ ดูโคซี่ๆ แบบบาร์ในสวนสวย นั่งเอกเขนก ทอดหุ่ยไปเรื่อยๆ ต้องบอกว่าไม่มีทางเป็นอย่างนั้นไปได้

เพราะบาร์แห่งนี้จะซ่อนตัวอยู่ในร้านอาหารไทย ที่แยกส่วนกันชัดเจน อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่คนละอารมณ์และสนุกกว่าที่คิด เสพความสุขผ่านค็อกเทลเคล้าเสียงดนตรีจากดีเจมากฝีมือที่จะหมุนเวียนกันมาเปิดแผ่นความสุขให้ได้สนุกกันแบบมีปาร์ตี้ส่วนตัวในสวน ที่เราไปเห็นสถานที่จริงมาแล้ว ก็อยากให้ที่นี่เปิดบริการยาวๆ ได้นั่งจิบนั่งดื่มค็อกเทลกันถึงเช้า แบบไปดื่มที่อื่นก่อน แล้วมาจบที่นี่

Coastal
ที่ตั้ง: สุขุมวิท 39 ในพื้นที่ของร้านอาหาร “คราม”
กำหนดเปิด: ต้นเดือน ก.ค.
เวลาเปิดบริการ: 19.00-24.00 น.



ทั้ง 8 บาร์ ที่ถือเป็น New Coolest Bangkok Bars to die for ของกรุงเทพฯ ที่จะทยอยเปิดกันตั้งแต่ต้นเดือนนี้เป็นต้นไป บอกได้เลยว่า “ต้องไปลอง” และห้ามพลาดจริงๆ เพราะแต่ละบาร์ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะและเสน่ห์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร และแน่นอนว่าเมื่อบาร์ไหนเปิดเต็มรูปแบบแล้ว AWAY จะอาสาไปรีวิวมาเล่าสู่กันฟังแบบจัดเต็มให้อย่างแน่นอน


 

RELATED