SHARE
Find The Locker Room

บาร์ลับระดับเทพ หลังห้องล็อคเกอร์

SHARE

สมศักด์ศรีกับการเปิดตัวอย่างสมบูรณ์แบบของบาร์ลับอย่าง #FindTheLockerRoom เมื่อกลางเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา กับอีกหนึ่งบาร์ที่วางจุดยืนของตัวเองให้เป็น Speakeasy Bar ที่ไม่อยากมีชื่อให้ใครเรียก แต่เชื่อเถอะว่าท้ายสุดบาร์แห่งนี้จะหนีไม่พ้นชื่อที่ต้องมีคำว่า Locker Room อยู่ในชื่อบาร์อย่างแน่นอน


#FindTheLockerRoom 



แม้ในยามนี้ ตัวบาร์เองยังยืนยันว่า “บาร์แห่งนี้ไม่มีชื่อนะ” ขอเพียงหาตำแหน่งของห้องล็อคเกอร์ จากการติดแฮชแท็ก #FindTheLockerRoom ให้เจอ แล้วคุณจะเจอทางเข้าบาร์เอง ซึ่งจริงๆ แล้ว ก็ไม่ได้หายากหรือลึกลับซับซ้อนมากนัก เพียงมุ่งตรงไปที่ร้าน Ping's Kitchen ในดงราเม็งของ Arena 10 ในทองหล่อซอย 10 ซึ่งร้าน Ping's Kitchen นั้น จะมีส่วนที่เป็นห้องครัว ให้เดินเข้าประตูทางขวามือสุดของห้องครัวนี้ ซึ่งเมื่อเปิดประตูกระจกเข้าไปแล้ว จะเจอห้องที่ผนังทั้ง 3 ด้านเป็นตู้ล็อคเกอร์ ให้เลื่อนบานที่อยู่ตรงกลางไปทางซ้ายมือ นั่นคือหนทางที่จะก้าวผ่านตู้ล็อคเกอร์เข้าสู่พื้นที่ของบาร์ด้านใน





Bar Atmosphere


บาร์แห่งนี้ตกแต่งอย่างเท่ ดิบและมีรสนิยม แม้ไฟจะไม่สว่างจนสามารถมองเห็นทุกซอกทุกมุมของบาร์ได้อย่างชัดแจ๋ว แต่นั่นหาใช่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะสิ่งที่ควรให้เวลาและไม่ควรพลาดของบาร์แห่งนี้ คือ ค็อกเทล ที่ผ่านการเลือกสรรจาก Classic Cocktail ยอดนิยมที่หลายๆ คนรู้จักดี มาชุบชีวิต เปลี่ยนร่างใหม่ ที่รับรองว่าควรค่าแก่การลิ้มรสและลิ้มลองให้ครบทุกประเภททุกแก้วจริงๆ


The Treasure Cocktail 




ค็อกเทลของที่นี่ทุกแก้ว ปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยแนวคิด “เครื่องดื่มเหนือกาลเวลา” ภายใต้คอนเส็ป “ Past-Present-Future”  โดย Original Classic Cocktail  จะอยู่ในหมวด Past จากนั้นนำ Classic Cocktail มา Twist  ซึ่งจะเป็นค็อกเทลในหมวด Present ส่วนในหมวด Future คือการนำ  Classic Cocktail มา Modern Twist ไปอีก


ซึ่งการทำงานของทีมเครื่องดื่มที่นำโดย คุณฮิเดซูกุ อูเอโนะ (Hidetsugu Ueno) เจ้าของบาร์ High Five ที่โด่งดังและเป็นที่นิยมในกลุ่มนักดื่มทั่วโลกจากย่านกินซ่า โตเกียว โดยคุณอูเอโนะ จะเป็นผู้เลือกและคัดสรร Classic Cocktail ว่าตัวไหนที่คู่ควรจะถูกนำมาสร้างสรรค์ให้เป็นเครื่องดื่มเหนือกาลเวลา มาชุบชีวิตใหม่ เป็น “ Past-Present-Future” และแน่นอนว่ายังช่วยดูแลทุกขั้นตอนการปลุก Classic Cocktail ทุกตัวที่เลือกมาให้มีรสชาติควรค่าแก่การประทับความทรงจำลงทุกต่อมสัมผัสของปลายลิ้นให้ลืมไม่ลงอย่างแน่นอน

จากนั้น คุณนิค วู (Nick Wu) ที่นอกจากจะเป็นเจ้าของบาร์ East End ที่ไทเปแล้วยังเคยได้รับรางวัลชนะเลิศ Taiwan World Class Competition  2016 และรางวัลที่ 3 ของ Diageo’s Global World Class Finals จะเป็นผู้รับผิดชอบการนำ Classic Cocktail ทุกตัวที่คุณอูเอโนะเลือก มาสร้างสรรค์โดยการ Twist ให้กลายเป็นอีกหนึ่งมิติของ Classic Cocktail ที่ยังคงรสชาติจากส่วนผสมดั้งเดิม แต่เปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ของรสสัมผัส โดยคุณนิค วู ได้เล่าให้ฟังว่าวิถีการสร้างสรรค์ค็อกเทลในแบบนี้ ยากกว่าการคิดค็อกเทลใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเสียอีก เพราะ Classic Cocktail ทุกตัวที่คุณอูเอโนะเลือกมานั้น ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นและนักดื่มทั่วไปต่างก็จดจำได้ หน้าที่ของเขาคือทำอย่างไรให้คนรู้ว่ารากเหง้าของเครื่องดื่มแก้วนี้นั้นคือมาจากไหน แต่ต้องได้รสชาติและรสสัมผัสที่ต่างไปจากเดิม

และท้ายสุดกับการ Modern Twist นำ Classic Cocktail จากอดีตสู่อนาคต ตามคอนเส็ป Future โดย คุณหนึ่ง รณภร คณิวิชาภรณ์ ที่นักดื่มหลายคนรู้จักและคุ้นหน้าค่าตากันเป็นอย่างดีจาก Backstage Bar ทองหล่อ รวมถึงพ่วงแชมป์ Thailand's Diageo World Class เมืองไทยมาแล้วถึง 2 สมัยด้วยกัน ซึ่งคุณหนึ่งจะนำ Classic Cocktail ที่ผ่านการเลือกโดยคุณอูเอโนะมาตัดต่อ DNA ใหม่ คือแทบจะเรียกได้ว่าแทบจะไม่เหลือเค้าโครงและร่างเดิมเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อได้ลิ้มรสและลิ้มลองพร้อมรู้เรื่องราวการเล่นแร่แปรธาตุปรับสูตรเปลี่ยนส่วนผสมว่ามาจากค็อกเทลตั้งต้นจาก Classic Cocktail ตัวไหน ก็ยากที่จะปฏิเสธในความตั้งใจที่จะเนรมิตให้นักดื่มได้ค้นพบประสบการณ์ใหม่ของอีกหนึ่งมิติของค็อกเทลที่ไม่เคยได้ลิ้มรสที่ไหนมาก่อน

และนี่คือบางส่วนของค็อกเทลเหนือกาลเวลา (Past-Present-Future) จากการสร้างสรรค์ของคุณอูเอโนะ คุณนิค วู และคุณหนึ่ง รณภร


BLOODY MARY





PAST:
Bloody Mary

คุณอูเอโนะ สร้างสรรค์แก้วนี้ได้อย่างน่าประทับใจเกินความคาดหมาย และน่าจดจำ เพราะไม่ว่าจะเคยลิ้มรส Bloody Mary มาก่อนหรือไม่ก็ตาม จะเป็นคนชอบหรือไม่ชอบน้ำมะเขือเทศ ก็ไม่ควรพลาดที่จะลิ้มรสแก้วนี้เด็ดขาด เพราะรับรองว่ารสสัมผัสจากการเลือกใช้น้ำมะเขือเทศจากผลมะเขือเทศที่คั้นสด 1 ลูก ต่อ 1 แก้ว แถมยังใช้ Cocktail Shaker ที่ไม่ใช่โลหะเพราะพื้นผิวของ Shaker จะเป็นมิตรกับ Taste Texture ของน้ำมะเขือเทศ รวมถึงการใช้ Celery และ Horseradish มา Sous-Vide กับ Vodka เพื่อเป็นส่วนผสมหลัก ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Bloody Mary แก้วนี้พร้อมให้ประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำ

PRESENT:
Harakiri

คุณนิค วู ให้ชีวิตใหม่กับ Bloody Mary แบบดั้งเดิม โดยการใช้ Vodka กับ Umeshu และยังแอบใส่ Green Tea ผสมกับ Fresh Lemon Juice และแน่นอนว่ายังคงสานต่อการใช้น้ำมะเขือเทศคั้นสดแบบคุณอูเอโนะ แถมมีลูกเล่นเพิ่มกับการสร้างสรรค์รสสัมผัสที่ปากแก้ว โดยการเพิ่มผงบ๊วยและผงพริกไทยดำรวมกับผงเกลือทะเลตามแบบดั้งเดิม แก้วนี้จึงเป็น Bloody Mary ในรูปแบบใหม่ที่ให้รสชาติและรสสัมผัสที่ลืมไม่ลงแน่นอน

FUTURE:
Bloodless Maria

ด้วยการใช้ Bianco Vermouth และให้ Tequila เป็น base จากนั้นใช้มะเขือเทศแห้ง ไป Sous-Vide กัน ก่อนนำไปพบกับ Mezcal โดยเลือกการผสมผสานในรูปแบบของ Martini พร้อมเพิ่มรสสัมผัสที่ปากแก้วด้วยผงมิโซะ ผลลัพธ์ที่ได้ในความเป็น Future ของ Bloody Mary แก้วนี้ คือประสบการณ์ใหม่ของค็อกเทลที่ยังคงผูกพันกับมะเขือเทศ แต่มาในร่างใหม่ที่ยังคงอ่อนโยน แต่ก็ร้อนแรงและกล้าแกร่งที่จะฉีกกฎเดิมๆ ที่คุ้นลิ้นกัน

FRENCH CONNECTION 

 



PAST:
French Connection

อย่างที่รู้กันว่า Classis Cocktail แก้วนี้ ใช้ Cognac และ Amaretto เป็นส่วนผสมหลักตามสูตรต้นแบบและดั้งเดิม แต่คุณอูเอโนะก็สามารถเสกและให้ชีวิตใหม่กับความลงตัวของรสชาติที่หอมหวานแต่หนักแน่น แบบไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มให้วุ่นวายหรือซับซ้อน เป็นความนิ่งเรียบอย่างสง่างามในรสชาติสำหรับการดื่มด่ำที่เนิบช้าแต่มั่นคงได้ตลอดคืน

PRESENT:
Smoking Connection

คุณนิค วู เพิ่มมูลค่าแห่งความหอมหวานและเย้ายวนของ French Connection ด้วยสัมผัสแห่ง Aroma Passion ด้วยการ Smoked ใบชาอย่าง Earl Grey และ Green Tea ที่แก้วก่อน จากนั้นค่อยผสม Cognac และ Amaretto ตามสูตร แต่เพิ่มความซับซ้อนของรสชาติขึ้นอีกขั้นด้วย Frangelico ทำให้แก้วนี้แตกต่างจากความคุ้นลิ้นแบบเดิมๆ ด้วยรสสัมผัสและกลิ่นหอมที่รัญจวนใจยิ่งนัก

FUTURE:
Nuts Over Michelin

คุณหนึ่ง รณภร ทุบกฎทุกข้อและกล้าขบถต่อวิถีดั้งเดิม ด้วยการนำ Cognac และ Foie Gras ผ่านกรรมวิธีหรือเทคนิคการทำ Fat Wash ก่อนนำไปแช่เย็นเพื่อแยกไขมันออก จากนั้นค่อยนำมาเสกสรรค์เป็นเครื่องดื่มในวิถี Cocktail Sour ที่มีไข่ขาวช่วยให้ได้รสสัมผัสที่นวลเนียนและดื่มง่าย เพิ่มรสชาติให้เย้ายวนยิ่งขึ้นด้วยการใส่ Almond & Black Sesame Syrup พร้อมโรยงาดำคั่วก่อนเสิร์ฟ เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่แตกต่างในทุกครั้งที่ยกขึ้นมาจิบ นี่คือการเติบโตในอีกมิติของ French Connection ที่ควรค่าแก่การลิ้มรสสักครั้งในชีวิตนักดื่ม



#FindTheLockerRoom เกิดขึ้นจากร่วมลงทุนของ 4 หุ้นส่วนจาก 4 ประเทศในเอเชีย ที่ช่ำชองและเชี่ยวชาญในธุรกิจบาร์และเครื่องดื่ม คือ คุณฮิเดซูกุ อูเอโนะ (Hidetsugu Ueno) เจ้าของบาร์ High Five ในโตเกียว ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกถึงฝีไม้ลายมือระดับชั้นครู, คุณนิค วู (Nick Wu) หนึ่งในผู้ก่อตั้งบาร์ East End ที่ไทเป ซึ่งมี คุณฮิเดซูกุ อูเอโนะ (Hidetsugu Ueno) ร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย ซึ่งคุณนิค วู เคยได้รับรางวัลชนะเลิศ Taiwan World Class Competition  2016 และรางวัลที่ 3 ของ Diageo’s Global World Class Finals และ คุณหนึ่ง รณภร คณิวิชาภรณ์ แห่ง Backstage บาร์ยอดนิยมย่านทองหล่อ และผู้ชนะการแข่งขัน Thailand's Diageo World Class มาแล้วถึง 2 สมัยด้วยกัน และท้ายสุดคุณโคลิน เชีย (Colin Chia) จากสิงคโปร์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งบาร์  ‘Nutmeg & Clove’ ที่ติดอันดับทั้งใน World’s Best Bars และ Asia’s 50 Best Bars ในปีที่ผ่านมา



#FindTheLockerRoom
ที่ตั้ง: ARENA 10 ทองหล่อ 10
เวลาเปิดบริการ : 19.00-01.00 น.

RELATED