SHARE
ASIA TODAY l NEW MENU

ค็อกเทลจากน้ำผึ้งป่า ที่จะทำให้คุณไปไหนไม่รอด

SHARE


หากคุณเป็นนักดื่ม เราคงไม่ต้องแนะนำอะไรมาก เมื่อพูดถึง Asia Today บาร์ค็อกเทลที่มีจุดยืนและไม่ขอตามกระแส แม้ว่าจะเป็นบาร์ที่มีผู้ก่อตั้งหลายคนมาจาก Teens of Thailand ซึ่งเป็น Gin Bar ที่ประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลมากมายทั้งในประเทศและระดับโลก เป็นบาร์แรกๆ ที่มาบุกเบิกซอยนานา ย่านวงเวียน 22 จนย่านนี้กลายเป็นย่านรวมพลคนรักการดื่มอย่างมีศิลปะย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ ไปแล้ว

ความโดดเด่นของ Asia Today ที่ยืนหยัดและตั้งมั่นกับจุดยืนที่ไม่ขอตามกระแสความฮิตของค็อกเทลที่ไหลตามกระแสความนิยม คือการเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็น “ของสดจากท้องถิ่นบ้านเรา” ที่เป็นรากเหง้าในวิถีชีวิตประจำวันของคนชนบทที่มีคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในเรื่องกลิ่นสัมผัส รสชาติ และรสสัมผัส Asia Today เลือกเส้นทางที่อยากนำลูกค้าผู้รักการดื่มอย่างมีอารยะ ได้เปิดโลกใหม่กับวัตถุดิบเดิมๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามไป ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือส่วนหนึ่งของการสร้างวัฒนธรรมเพื่อความภูมิใจในชาติพันธุ์ ภูมิใจกับสิ่งที่เรามี ที่เราเป็น และไม่สามารถหาได้จากที่อื่น

วัตถุดิบท้องถิ่นพื้นบ้าน ที่ Asia Today เคยนำมาใช้ในการทำเครื่องดื่ม โดยการเดินทางไปเสาะหา พูดคุยกับคนท้องถิ่น ศึกษา และเก็บมาโดยคงความสดให้ได้มากที่สุด เช่น ใบหูเสือ ใบองุ่น ผลไม้พื้นบ้าน อย่างลูกหวาย ลูกนมวัวป่า, จำปาดะ, จำปูลิง เป็นต้น

และครั้งนี้ ในวันที่ Asia Today เปิดตัวเมนูเครื่องดื่มชุดใหม่ ที่ได้ ณิกษ์ อนุมานราชธน หนึ่งในผู้ก่อตั้ง มาเปลี่ยนน้ำผึ้งป่า ให้เป็นเครื่องดื่มที่ทรงพลานุภาพ สมศักดิ์ศรีแห่งการเป็น Mixologist ชั้นแนวหน้าของไทย ที่น้อยคนนักจะเจนจัดและแม่นยำในการเสกสรรค์เครื่องดื่มชั้นดี จากการผสมผสานของเหลวที่แตกต่างกันให้ได้ดั่งใจคิดเช่นนี้




ก่อนไปจะไปลงลึกและรู้จักเมนูค็อกเทลใหม่ของ Asia Today ที่ว่ากันด้วยเรื่องพลังแห่งน้ำผึ้งป่า ภายใต้แนวคิด "Wild Honey is the new Gold" นั้น เราอยากพาทุกคนไปรู้จักความซน ความบ้า กับวิถีชีวิตบนแนวคิดที่มีเชื้อดื้อติดตัวอยู่เกือบตลอดเวลาของคุณณิกษ์ อนุมานราชธน ที่นับได้ว่าเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ของบาร์ค็อกเทลร่วมสายโลหิตแห่งซอยนานา อย่าง Teens of Thailand และ Asia Today หรือถือได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ในวงการสายค็อกเทลที่หลายคนต่างยอมรับในฝีไม้ลายมืออันมีเอกลักษณ์ที่แฝงความระห่ำเฉพาะตัว

เมื่อพูดถึงเชื้อดื้อและความซนแล้ว ตั้งแต่เรามีโอกาสได้รู้จักคุ้นเคยกันมา ตั้งแต่สมัยคุณณิกษ์ ทำบริษัทรับดูแลเครื่องดื่มในงานอีเว้นต์ภายใต้ชื่อ Vice Versa บริษัทที่รับสร้างสรรค์ และดูแลให้บริการเครื่องดื่มค็อกเทลในงานเลี้ยงต่างๆ จนแตกแขนงมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจอย่าง Drinks Academy หรือโรงเรียนสอนทำค็อกเทล ที่เน้นหลักสูตรการเรียนการสอนแนวรู้ลึก รู้ให้ชัด เพื่อสามารถนำทักษะที่ได้ไปใช้ ทำงานได้จริง ก็นับได้ว่าเป็นความซนในการทำธุรกิจที่ไม่ซ้ำทางใครและโดดเด่นจนเป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้ามากมาย

หลังจากนั้นคุณณิกษ์ ก็ไม่ลดละความซนและเชื้อดื้อ จึงได้เปิดบาร์ค็อกเทลเล็กๆ ชื่อ BARKA ในพหลโยธินซอย 2 ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับ Aran Bicicletta คาเฟ่จักรยาน หลายคนที่เคยไปมีประสบการณ์การดื่มด่ำที่ BARKA บาร์ค็อกเทลเล็กๆ ที่ซ่อนตัวในซอกหลืบแบบหายากหน่อย แต่ก็ไม่ได้ลึกลับจนถึงขั้นเป็น speakeasy bar ขนาดนั้น ต่างก็คิดว่า BARKA เหมือนเป็นตัวอ่อนหรือบาร์ทดลองก่อนจะเติบโตมาเป็น Teens of Thailand บาร์ยอดนิยมในใจใครหลายคนในตอนนี้

แต่ก่อนจะมาเป็น Teens Of Thailand คุณณิกษ์มีแวะไปร่วมทุนกับเพื่อนๆ ทำร้าน S’MORES Hunting Lodge ที่หลายคนน่าจะยังจำกันได้ว่าในยุคนั้นถือเป็นร้านอาหารแนวอเมริกันที่ฉีกรูปแบบความมีพิธีรีตองมาเป็นแบบแค้มปิ้ง เหมือนนั่งกินอาหารรสชาติดีๆ กลางป่า และแน่นอนพร้อมเสิร์ฟค็อกเทลที่ไม่ธรรมดา ที่สร้างสรรค์โดยคุณณิกษ์ ที่เราสามารถเรียกขานว่าเป็น Mixologist ได้อย่างเต็มปากและไม่มีอะไรต้องกังขา

นัยยะะของการเป็น Mixologist นั้น เท่าที่เราได้ประสบพบเจอและถามไถ่ผู้คนในสังเวียน Cocktail Culture ทั้งในและต่างประเทศ น่าจะนิยามแบบให้เข้าใจง่ายๆ ได้ประมาณว่า คือ บาร์เทนเดอร์ที่ก้าวข้ามคำว่าอุปสรรคในการทำเครื่องดื่มจากวัตถุดิบหรือส่วนผสมที่มี เพราะเขาจะสามารถเล่นแร่แปลธาตุ แบบรู้ว่าจะควบคุมของเหลวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอลล์หรือไม่ก็ตาม สามารถบังคับให้รสชาติออกมาได้อย่างใจหวัง หรือรู้ว่าถ้าจะใช้อะไร มาทำเครื่องดื่มอะไรกับส่วนผสมไหน แล้วควรต้องจัดการอย่างไรกับของเหลวชนิดนั้น Mixologist ส่วนใหญ่ เวลาพบเจอของเหลวที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน ก็แค่ดมกลิ่นกับลิ้มรสเพียงเล็กน้อย ก็เล่ารายละเอียดได้เลยว่าของเหลวนั้นๆ น่าจะมีอะไรผสมอยู่บ้าง และควรหรือไม่ควรนำไปผสมกับอะไร จึงจะได้รสชาติที่จะดียิ่งขึ้น

ซึ่ง ณิกษ์ อนุมานราชธน เป็นหนึ่งใน Mixologist ที่มีคุณสมบัติดังที่เราเล่ามา

และเมื่อวันนี้ Asia Today นำเสนอเมนูค็อกเทลใหม่ภายใต้แนวคิดที่ว่า "Wild Honey is the new Gold" เราจึงมั่นใจมากว่าต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
 



ก่อนที่จะบอกว่าค็อกเทลชุดใหม่ ของ Asia Today กับแนวคิด "Wild Honey is the new Gold" จะน่าลิ้มรสหรือลิ้มลองมากแค่ไหน เราอยากพูดถึงเรื่องความกล้าหาญในการนำ “น้ำผึ้ง” มาเป็นส่วนผสมในการชูโรงค็อกเทลครั้งนี้กันก่อน

เราเชื่อว่าหลายๆ คน คงอยากสารภาพกันตรงๆ ว่า ไม่ค่อยรู้สึกดีกับเครื่องดื่มที่ใส่น้ำผึ้งมากเท่าไหร่นัก เพราะด้วยคุณสมบัติของน้ำผึ้งที่มีความหนืด ความเหนียว ความหวานมาก ใส่ในเครื่องดื่มอะไรก็ตาม ก็จะลงไปนอนนิ่งที่ก้นแก้ว ความสมดุลของรสชาติไม่ค่อยมี ได้แต่รสสัมผัสความหวานที่มาพร้อมความหนืด ซึ่งเราเองก็เป็นหนึ่งที่รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน และโดยปกติพอได้ยินชื่อเครื่องดื่มเย็นไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่ใส่น้ำผึ้ง ก็ไม่ค่อยมีความอยากลิ้มรสมากเท่าไหร่นัก

แต่เมื่อ Asia Today บาร์ค็อกเทลที่ชอบนำวัตถุดิบพื้นบ้านมาทำเครื่องดื่ม ประกาศว่าจะใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนผสมหลักในการทำค็อกเทลของเมนูใหม่ครั้งนี้ เราเชื่อว่าต้องไม่ธรรมดาและย่อมแตกต่างจากประสบการณ์ที่คุ้นชินและคุ้นลิ้นมาก่อนอย่างแน่นอน

"Wild Honey is the new Gold" ใช้น้ำผึ้งป่าและน้ำผึ้งจากท้องถิ่นที่ผ่านการเสาะแสวงหาจากพื้นที่ต่างๆ ซึ่งตอนนี้ที่ Asia Today มีน้ำผึ้งอยู่ในคลังบริเวณชั้น 2 ของบาร์ จากกว่า 40 แหล่ง ทั้งในและต่างประเทศ เลือกทดลองการเก็บและพัฒนาวิธีการนำมาใช้ที่ต้องศึกษาว่าน้ำผึ้งแต่ละชนิดควรใช้อย่างไร ใช้กับ Base Spirits ตัวไหนถึงจะลงตัวและช่วยส่งเสริมรสชาติซึ่งกันและกัน เพราะเหล้าหรือสุรากลั่นแต่ละตัวล้วนมีส่วนผสมและคุณลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวที่เอื้อต่อการปรุงค็อกเทลได้รสชาติที่ดีแตกต่างกัน


ซึ่งครั้งนี้ Asia Today เลือกใช้น้ำผึ้งจากผึ้งหลวง ผึ้งโพรง และจากชันโรง ซึ่งตัวชันโรงนี้ไม่ใช่ผึ้ง แต่เป็นแมลงที่มีอุปนิสัยในการเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไม้มาผ่านขบวนการทางธรรมชาติเหมือนผึ้ง น้ำผึ้งจากตัวชันโรงหรือ Stingless Bee Honey จึงถือได้ว่าเป็นน้ำผึ้งมหัศจรรย์ มีรสออกหวานอมเปรี้ยว มีความชื้นสูงเนื่องจากตัวชันโรงเป็นแมลงเก็บน้ำหวานขนาดเล็กกว่าผึ้งปีกเล็ก จึงทำให้ไล่ความชื้นในรังได้น้อยกว่า และถือได้ว่าเป็นน้ำผึ้งที่หาได้ยากและไม่ค่อยพบมากนัก เพราะรังของตัวชันโรงที่มีอายุราว 1 ปี จะมีน้ำหวานต่อรังได้ราวๆ  1 กิโลกรัมเท่านั้นเอง จึงพูดได้ว่าการเลือกใช้น้ำผึ้งมาทำค็อกเทลของ Asia Today ครั้งนี้ไม่ธรรมดา คือต้องกล้า ดื้อ และซน ขนาดไหน ถึงจะหาเรื่องทำเรื่องยากเปลี่ยนน้ำผึ้งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นให้กลายเป็นส่วนผสมหลักที่จะให้รสชาติที่กลมกล่อมกับค็อกเทลที่จะปรุงออกมาได้อย่างลงตัว
 



ค็อกเทลที่เป็น New Menu ครั้งนี้ประกอบด้วย 3 ชุดใหญ่ๆ ได้แก่ Sailor Moon ค็อกเทลที่เน้นให้ดื่มง่าย สดชื่น, Doraemon ค็อกเทลที่เพิ่มดีกรีความแรงและความซน เป็นแนว Wild Doraemon หรือเมื่อโดราเอม่อนเดินเข้าป่า และท้ายสุดกับ Saiyan (Dragon Ball) ที่ชื่อก็บอกชัดเจนแล้วว่าไม่เบา ไม่ธรรมดา ร้อนแรงและไม่ออมมืออย่างแน่นอน โดยในแต่ละหมวดจะแบ่งแยกย่อย หรือแตกรายละเอียดเพิ่มระดับและดีกรีความซนออกเป็น A-B-C เช่นในหมวด Sailor Moon ก็จะมีค็อกเทลชื่อ SAILOR-A, SAILOR-B และ SAILOR-C ในหมวด Doraemon ก็จะมีค็อกเทลชื่อ DORA-A, DORA-B และ DORA-C และในหมวด Saiyan ก็จะมีค็อกเทลชื่อ SAIYAN-A, SAIYAN-B และ SAIYAN-C ทั้งหมดรวมครบถ้วนของ New Menu สำหรับ "Wild Honey is the new Gold" ก็ 9 เมนูด้วยกัน ซึ่งตัวที่จิบง่ายเบาสบายเหมาะแก่การเป็น First Drink ก็คือ SAILOR-A และลึกลับซับซ้อนหรือโหดสุดก็ต้อง SAIYAN-C

ซึ่งเราขอนำค็อกเทลในดีกรีความอร่อยและความแรงในระดับ A ของแต่ละหมวดมาแนะนำพอเป็นตัวอย่างถึงความซนในการช่างคิดผสมผสานกับความดื้อที่ไม่อยากซ้ำใคร บนความคิดที่ว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้หากมีความตั้งใจจริงที่จะเปลี่ยนมิติใหม่ของสิ่งที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่แล้ว


SAILOR-A 

- Giant Honey Bee
- Tio Pepe Dry Sherry
- Sacred English Dry Vermouth
- Fresh Lime
- Tigers Ear Mint
- Orange
- Cava 


ดูจากรายชื่อของส่วนผสมก็พอจะเดาทางได้ว่า แก้วนี้มาแนวสดชื่น หอม หวาน ละมุนลิ้นแน่นอน โดยการเลือกผสมผสานโดยจูงมือน้ำผึ้งหลวง มาเจอกับ Tío Pepe Dry Sherry ซึ่งเป็นไวน์ขาวสัญชาติสเปนที่มีความโดดเด่นของความใสเบาและสดชื่น  กับ Sacred English Dry Vermouth ซึ่งเป็น Vermouth สาย Spicy และ Herbal ที่มี Base เป็น  English wine มาเจอกับส่วนผสมอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยให้รสชาติมีมิติมากยิ่งขึ้น แล้วแต่งแก้วด้วยใบหูเสือ ที่ทางร้านปลูกไว้ใช้เอง แก้วนี้จึงเหมาะสำหรับเป็นดื่มแรก เพื่อเปิดและกระตุ้นต่อมรับรสในปากได้อย่างดีเยี่ยม ดื่มง่าย จิบเพลิน และรสชาติกลมกล่อมอย่างลงตัว
 

DORA-A

-Eastern Honey Bee
-Flor de Cana Rum
-Fresh Lime
-Honey-Lime-Vanile Foam
-Bee wax mug

ถือเป็นแก้วที่ฉลาดในการเลือกส่วนผสมและวิธีปรุงรสได้อย่างชาญฉลาด เพราะรัมอย่าง Flor de Cana Rum นั้นมีลักษณะเฉพาะของ Butterscotch, Brown Sugar, Almond Butter, Dried Figs และ Red Apple เมื่อมาผสานรวมกันกับน้ำผึ้งชั้นดี และการทำฟองโฟมอ่อนละมุนจากน้ำผึ้งและน้ำมะนาว ผลลัพธ์ที่ได้คือรสชาติที่หวานกลม ป่าละมุน คาแร็คเตอร์ของน้ำผึ้งมาครบและชัด เหนืออื่นใดชอบที่ถอดวิญญานน้ำผึ้ง ลดตัวตนความหนักของมวลให้หายไป พร้อมเสิร์ฟในแก้วขี้ผึ้งที่ทางร้านทำขึ้นมาเอง ให้ผิวสัมผัสตอนจิบและจบอย่างงดงาม
 

SAIYAN-A

-Stingless Bee
-Wild Turkey Bourbon
-Rittenhouse Rye
-Angostura Bitters
-Pure Coconut Sugar


เราจัดให้แก้วนี้เป็น rare item ตั้งแต่การเลือกใช้น้ำผึ้งชันโรง ที่ทรงคุณค่าในความหวานหอมอมเปรี้ยวแบบดอกไม้ป่า แล้วเลือกการปรุงรสแบบ Spirit Forward ที่เลือกเพิ่ม Rittenhouse Rye ที่มีรสชาติของ Cocoa, Citrus, Cinnamon, Nutmeg และ Vanilla เจืออยู่ ส่วน Wild Turkey Bourbon นั้น คงไม่ต้องพูดถึงความหนักหน่วง เลยเถิดไปถึงความซนในการผสมผสาน Oak Aroma ของส่วนผสมหลักทั้ง 3 ตัว (Stingless Bee - Wild Turkey Bourbon- Rittenhouse Rye) นี่คือความยากที่ต้องเก็บความโดดเด่นของของเหลวแต่ละตัวมาให้ครบและให้รู้สึกได้ในขณะจิบ แถมเพิ่มรสสัมผัสด้วยมะพร้าวคั่วที่โรย on top มาอีก กำไรแห่งรสชาติของแก้วนี้ คือ ความชัดเจนของรสชาติที่เก็บมาชัดและครบทุกส่วนผสม แบบไม่มีใครแย่งซีนใคร สมศักดิ์ศรีความเป็นไซย่า สายดาร์ก ที่ไม่ออมมือและมีมาดนุ่มๆ นิ่งๆ ให้ตกเป็นเป้าสายตาที่คนมองมาแล้วแอบชื่นชมเมื่อเห็นคุณกำลังจิบค็อกเทลแก้วนี้




คลังน้ำผึ้งจากแหล่งต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศกว่า 40 แหล่ง บนชั้น 2 ของ Asia Today



NEW SPACE



นอกเหนือจากการเปิดตัว New Menu แล้ว ในวันนี้ Asia Today ยังได้ขยับขยายพื้นที่เพิ่มความสบายให้กับลูกค้าที่มักมากันอย่างเนืองแน่นในทุกค่ำคืน โดยการเพิ่มพื้นที่ให้ทุกคนมี Human Space มากขึ้น บนชั้น 2 ของร้าน ที่ตกแต่งและจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างลงตัว ขึ้นไปนั่งด้านบนแล้วจะรู้สึกราวกับเป็นลูกค้า VIP ที่ได้อัพเกรดที่นั่ง หรือได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเยือนห้องส่วนตัวของเจ้าของ ที่พร้อมต้อนรับราวกับลูกค้าทุกคนเป็นเพื่อนสนิท

ในฐานะที่เราได้แวะเวียนไป Asia Today เป็นประจำ บอกคำเดียวเลยว่าตอนนี้ไปเมื่อไหร่ ก็อยากขึ้นไปนั่งบนชั้น 2 ก่อนเลย ใครยังไม่เคยแวะเวียนไป บอกคำเดียวว่าวันนี้ Asia Today คืออีกหนึ่งบาร์ค็อกเทล ที่ต้องไปเยือนและพลาดไม่ได้จริงๆ 




 

ASIA TODAY

ที่ตั้ง: 35 ซอยรามไมตรี (ซอยย่อยในซอยนานา / วงเวียน 22 กรกฎา) ถนนไมตรีจิตต์
โทร.: 097 134 4704
เปิดบริการ: วันอังคาร-วันอาทิตย์ 19:00-00:00 น. (ศุกร์-อาทิตย์ ปิด 01:00 น.)
Facebook: Asia Today

RELATED