SHARE
LIBERATION

Speakeasy Bar Scene กับค็อกเทลจากโฆษณาชวนเชื่อ

SHARE



หลังจากซ้อมรันก่อนเปิดจริงได้เพียงไม่กี่อาทิตย์ เราเชื่อว่าทุกคนที่มีโอกาสไปลิ้มรสค็อกเทลจาก Libération มาแล้วนั้น คงไม่มีใครปฏิเสธและคงเห็นพ้องต้องกันว่าเครื่องดื่มของ Libération นั้นไม่ธรรมดา ทุกเมนูล้วนผ่านการคิดค้น ค้นคว้า และมีที่มาที่ไป รวมถึงเลือกสรรขั้นตอนในการเสกเครื่องดื่มแต่ละแก้วอย่างตั้งใจ เกินคำว่าพิถีพิถันและใส่ใจ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในแต่ละแก้วที่เสิร์ฟให้กับลูกค้าทุกคน



เหตุผลของทุกถ้อยคำที่กล่าวมาข้างต้น เป็นจริงได้อย่างไม่ต้องสงสัยใดๆ เพราะ Libération ที่แม้เป็นบาร์ใหม่ แต่ไม่ใช่น้องใหม่ในวงการเลย ที่นี่คือขุมพลังของคนทำงานบาร์มืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น คุณสุวิญชา สิงห์สุวรรณ ที่เป็นแม่ทัพใหญ่ของ Rabbit Hole บาร์ค็อกเทลยอดนิยมแห่งซอยทองหล่อ และแน่นอนว่าได้มาเป็นแม่ทัพในการช่วยดูแลและเป็นที่ปรึกษาสำคัญให้กับบาร์เทนเดอร์ของ Libération ที่ล้วนมากฝีมือระดับมือรางวัลทั้งนั้น

หนึ่ง คือ คุณกิติบดี ช่อทับทิม หรือคุณกอฟ อดีต Head Bartender จาก Backstage Cocktail Bar และเป็นรองอันดับ 1 World Class 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีกว่าคุณกอฟเป็นบาร์เทนเดอร์ฝีมือดีระดับแนวหน้าของบ้านเราที่มีความเชี่ยวชาญและแม่นยำในการเลือกใช้วัตถุดิบและนำมาผสมผสานกับเหล้าต่างๆ ชอบทดลองหาวิธีหรือแนวทางใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ค็อกเทลให้มีมิติของรสชาติ ที่เพิ่มคุณค่าในเครื่องดื่มแต่ละแก้วให้กับลูกค้าทุกคนอยู่เสมอ

อีกหนึ่งคือ คุณกฤษฏ์ ประกอบดี หรือ โจอี้ อดีต Bartender จาก Tropic City ผู้ลุ่มหลงในการแปลงรูปและเปลี่ยนรสชาติของวัตถุดิบไทยพื้นบ้านใกล้ตัวให้กลายเป็น Homemade Syrup ในมิติต่างๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าแห่งรสสัมผัสและนำมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำเครื่องดื่มแต่ละแก้ว ซึ่งแน่นอนว่าทุกวันนี้โจอี้ก็ยังคงค้นคว้าหาแนวทางใหม่ๆ ในการเสกสรรรสชาติแปลกใหม่จากวัตถุดิบที่เราต่างคุ้นชินให้ได้ประหลาดใจและประทับใจในคราเดียวกัน

ซึ่งนอกจากบาร์เทนเดอร์มากฝีมือทั้ง 3 ท่าน ที่กล่าวมาแล้ว ก็ยังมีทีม Support ที่แข็งแรง พร้อมเสิร์ฟค็อกเทลที่มีแนวคิดในการนำเสนอที่ชัดเจนและน่าสนใจ จนหลายคนต้องกลับมาซ้ำ เพื่อได้ชิมให้ครบถ้วนกับทุก Signature Menu ที่ทาง Libération ตั้งใจคิดค้นและเสกสรรมาเสิร์ฟให้กับนักดื่ม ที่ต้องการประสบการณ์ในการดื่มที่แตกต่างไปจากเดิม


แนวคิดของ Signature Cocktail ของ Libération มาจากแนวคิดจากโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ( Propaganda Posters World War 1 ) ที่ในยุคนั้นข่าวสารแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนคือจริง อันไหนคือเท็จ ทีมบาร์เทนเดอร์ของ Libération จึงได้นำแนวคิดของ “สาร” ในโปสเตอร์แต่ละใบ มาแปลเปลี่ยนเป็น “สาร” ที่จะส่งผ่านในเครื่องดื่มแต่ละแก้ว นำโปสเตอร์ที่เลือกแล้วมาตีความ หาส่วนผสม และคิดค้นวิธีการทำ ทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า จนมั่นใจว่าจะให้รสชาติที่ชวนประทับใจและเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ กลายเป็น 15 Signature Drinks ที่เกินคำว่า “พลาดไปแล้ว คงไปหาลิ้มลองที่ไหนได้ยากจริงๆ”


และนี่คือบางส่วนของ Signature Drinks Menu จาก Libération ที่เราเก็บมาฝากกัน



SHHHHZZZZ
แรงบันดาลใจจากโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อ Silence means security ระหว่างปี 1941-1945

ส่วนผสม: 
Tio Pepe, Umeshu, Apricot Liqueur, Fingers Cordial, Tonic

แก้วนี้เหมาะที่สุดที่จะเป็น First Drink สำหรับที่นี่ เพราะไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยมาจากการเดินทาง หรือเพิ่งไปทานมื้อเย็นก่อนแวะมาที่บาร์แห่งนี้ ค็อกเทลแก้วนี้จะทำหน้าที่เคลียร์รสชาติที่ตกค้างมาในปากให้สว่างใสพร้อมรับรสชาติของค็อกเทลแก้วอื่นๆ ที่จะตามมา และแน่นอนว่ายังให้ความสดชื่นแบบแอบๆ ปลุกให้ตื่นตัว สดใส แบบไม่กระโตกกระตาก เป็นสัญญานบอกว่า "รู้แล้วก็เงียบไว้นะ...SHHHHZZZZ" 



VEGAN WAR

แรงบันดาลใจจากโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อ Dig On for Victory ปี 1939

ส่วนผสม:
Re Distilled Sweet Basil, Carrot Cordial,Tomato, Red Cabbage

แก้วนี้จากโปสเตอร์เป็นรูปการหอบผัก กับใจความสำคัญที่ต้องการชวนเชื่อว่า “เกษตรกรจ๋ามาร่วมเดินสู่ชัยชนะกันเถิดเร็ว” หรือเปล่า? แก้วนี้จึงใช้ส่วนผสมที่ล้วนเกี่ยวโยงกับพืชผักสวนครัว ซึ่งเห็นส่วนผสมแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือความท้าทายที่จะผสมผสานรสชาติออกมาอย่างไรให้น่าประทับใจ...ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นหลายคนที่ได้ลิ้มรสต่างยอมรับว่าแก้วนี้คือดีเกินคาดได้อย่างน่าประหลาดใจ และกลายเป็นอีกหนึ่งแก้วที่เกินคำว่า "คุ้มค่า" และ "คุ้มเกินราคา" ที่ต้องจ่ายสำหรับแก้วนี้

ACROSS BORDERS 

แรงบันดาลใจจากโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อ Come on Canada ปี 1939

ส่วนผสม:
Calvados, Apricot Liqueur, Dry Vermouth, Roselle & Maple Syrup, Lemon Juice, Egg White

แก้วนี้สนุกสมกับชื่อจริงๆ เพราะใช้ Calvados ซึ่งเป็นบรั่นดีฝรั่งเศสที่ทำจากแอปเปิลหรือลูกแพร์ พามาเจอกับเหล้าเอพริคอต รวมกับ Dry Vermouth เข้าไปอีก รสชาติที่ได้รับรองว่าดื่มง่าย แต่แรงแบบไม่มีการออมมือ เหมือนมาชวนให้ยอมโดนจูงมือข้ามพรมแดนแบบวางใจ แต่อย่าเพิ่งด่วนเชื่อใจว่าจะนิ่งๆ เหมือนไม่มีอะไรเด็ดขาด เพราะเนื้อแท้แล้วมีอะไรมากกว่าที่ประเมินไว้มากทีเดียว




BREAD N' PANDAN 

แรงบันดาลใจจากโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อ Save a loaf a week help win the war ปี 1919

ส่วนผสม:
Rye Whiskey Washed With Brown Butter, Bols Genever, Pandan & Niem Vermouth, Chocolate Bitters

จากโปสเตอร์ที่เป็นรูปขนมปัง ก็กลายมาเป็นแนวคิดในการพัฒนาแก้วนี้ ที่น่าจะมาจากค็อกเทลชื่อ The Brown Butter ซึ่งเป็น Old Fashioned Cocktail ถูก Twist ใหม่ โดยมีทีเด็ดที่ Vermouth อินฟิวซ์กับใบเตยและใบเนียม ซึ่งจริงๆ ใบเนียมก็ให้กลิ่นอ่อนๆ คล้ายกลิ่นใบเตยอยู่แล้ว แต่เมื่อใช้ทั้งใบเตยและใบเนียม มิติของรสชาติและกลิ่นย่อมมีความซ้บซ้อนและชวนค้นหาเพื่อความประทับใจที่แตกต่างจากรสชาติที่คุ้นชินอย่างแน่นอน

CANDY ROBBER 

แรงบันดาลใจจากโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อ Thief ปี 1920

ส่วนผสม:
Gin infused Pink Flamingo Tea, Strawberry and Rose, Honey, Lemon Juice, Almond Cream, Egg White, Rose Lemonade

จากประโยคในโปสเตอร์ที่เขียนไว้ว่า "The Worst Thief Is He Who Steals The Playtime of Children" ก็ถูกตีความมาเป็นชื่อค็อกเทลที่ได้ใจความและตรงประเด็น คือ “ CANDY ROBBER ” ดังนั้นแก้วนี้จึงมาในสีลูกกวาด รสหวาน พร้อมฟองนุ่มๆ และกลิ่มหอมราวกับเป็นลูกกวาดหลอกล่อเด็กน้อยให้ยอมตกเป็นทาส ที่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ช่วงเวลาแห่งความสนุก ผ่านของหวานที่นำมาล่อหลอกนั่นเอง


Libération เป็นค็อกเทลบาร์ที่เป็น Speakeasy Bar Scene คือไม่มีป้ายร้าน ไม่มีป้ายบอกว่าอยู่ตรงไหน ประตูทางเข้าตั้งอยู่ ณ จุดใด และโดยมารยาทก็ไม่ควรบอกหรือชี้เป้าว่าจะมาถึงร้านได้ยังไง เสน่ห์และความสนุกของ Speakeasy Bar Scene ก็อยู่ตรงนี้ ตรงที่คือความท้าทายที่ลูกค้าต้องหาทางมาร้านให้เจอจนได้ ซึ่งเราบอกได้เพียงว่า Libération อยู่ในโครงการพิมาน 49 ที่ไปถึงแล้วลองหาดูว่าร้านซ่อนตัวอยู่ในมุมไหน ซึ่งเราขอรับรองว่าไม่ได้ยากเกินกว่าจะพบเจอในเวลาอันน้อยนิด


The Libération Cocktail Bar
โครงการพิมาน 49 สุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
โทร. 093 654 2500
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 19.00-02.00 น.
FB: Libération

Libération พร้อมเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบ โดยมีกำหนดการของ Grand Opening ในวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป


RELATED